E-commerce manager

• แชร์
• เก็บงาน
• พิมพ์งาน
• ร้องเรียน

• วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ & การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง (Strategic Vision & Change Leadership) 1.มองเห็นอนาคตดิจิทัล:เข้าใจเทรนด์ตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ เทคโนโลยีใหม่ (AI, Automation, Social Commerce) และคาดการณ์ทิศทาง E-commerce ได้แม่นยำ 2.กำหนดกลยุทธ์ระยะยาว: สร้างโรดแมปดิจิทัลที่ชัดเจน สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจหลักของบริษัทและมุ่งสู่ยอดขายอย่างเป็นขั้นตอน 3.ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Agent):โน้มน้าวใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งองค์กร (โดยเฉพาะทีมขายแบบดั้งเดิม) ให้เห็นความจำเป็นและประโยชน์ของการเปลี่ยนสู่ E-commerce แก้ไขแรงต้านทานภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้าน E-commerce & ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง (Deep E-commerce & Digital Expertise) 1.รู้ลึก Platform หลัก:เชี่ยวชาญการบริหารและเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์มใหญ่ (Shopee, Lazada, TikTok Shop, LINE OA, Facebook/Instagram) รวมถึง D2C (เว็บไซต์บริษัท) การใช้เครื่องมือโปรโมชัน การจัดการร้านค้า (Store Operations) และการวิเคราะห์ข้อมูลบนแพลตฟอร์ม 2.Digital Marketing แบบครบวงจร: ชำนาญการวางแผนและดำเนินการ Paid Media (SEM, Social Ads, Display), SEO, Content Marketing, Influencer Marketing, Affiliate Marketing, Email Marketing และการทำ Retargeting เพื่อดึง Traffic และ Conversion สูงสุด 3.Data-Driven Decision Making: ใช้ข้อมูล (ยอดขาย, Conversion Rate, CAC, LTV, ROI, คลังสินค้า) ในการวิเคราะห์ปัญหา วัดผลทุกแคมเปญ ปรับกลยุทธ์แบบ Real-time และคาดการณ์ยอดขายได้แม่นยำเพื่อให้บรรลุ เป้าหมายการขาย 4.Customer Journey & UX: เข้าใจประสบการณ์ลูกค้าออนไลน์อย่างลึกซึ้ง และปรับปรุงทุกจุดสัมผัส (Touchpoint) ให้เกิดการซื้อซ้ำและความภักดี
• ความเป็นผู้นำ & การบริหารทีม (Leadership & Team Management) 1.สร้างทีมประสิทธิภาพสูง: คัดเลือก ฝึกอบรม และดึงศักยภาพของทีม E-commerce (Marketing, Content, Operations, Data Analyst, Customer Service) ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผล 2. ถ่ายทอดความรู้ : จัดเวิร์กช็อปหรือฝึกอบรมทักษะใหม่ ๆ เช่น การใช้ AI ในการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อยกระดับสมรรถนะทีม 3.กระตุ้นทีมด้วยผลตอบแทน: ออกแบบระบบค่าตอบแทนเช่น คอมมิชชั่นจากยอดขาย + โบนัสตามผลงานกลุ่ม 4.แก้ปัญหาเฉพาะหน้า: รับมือกับวิกฤตเช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายแพลตฟอร์ม สต็อกสินค้าขาดมือ โดยตัดสินใจอย่างรวดเร็ว 5.บริหารข้ามสายงาน (Cross-functional Leadership):ประสานงานอย่างแนบแน่นกับทีมขายดั้งเดิม ทีมการตลาดหลัก ทีมผลิตภัณฑ์ ทีมไอที ทีมคลังสินค้า และโลจิสติกส์ เพื่อให้การทำงานเป็นหนึ่งเดียว 6.การสื่อสารโน้มน้าวใจ:สื่อสารกลยุทธ์และผลลัพธ์ให้ผู้บริหารระดับสูงเข้าใจและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
• การขับเคลื่อนยอดขาย & การจัดการผลการดำเนินงาน (Sales Driver & Performance Management) 1.ผลักดันยอดขายอย่างก้าวกระโดด: มีประสบการณ์และความสามารถในการสร้างกลยุทธ์เฉพาะเพื่อเพิ่มยอดขายให้ถึงระดับพันล้านบาทขึ้นไป (เช่น การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ การเข้าสู่ตลาดใหม่ การเจรจาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ การใช้ช่องทาง Omnichannel) 2. การจัดการ P&L:มีความรับผิดชอบต่อผลประกอบการของช่องทาง E-commerce ทั้งหมด ควบคุมงบประมาณ ต้นทุน และสร้างกำไรให้ได้ตามเป้า 3.การวัดผล KPI ที่ชัดเจน: ตั้งค่าและติดตาม KPI ที่สอดคล้องกับเป้าหมายยอดขาย เช่น GMV, Net Revenue, Conversion Rate, AOV, CAC, ROI, Inventory Turnover 4.การจัดการคลังสินค้าและระบบอัตโนมัติ: เข้าใจระบบหลังบ้าน (ERP, OMS) การพยากรณ์สินค้า และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการ

• ความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และตลาด (Deep Product & Market Knowledge) 1.รู้จักสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย:เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงข้อดี/ข้อเสียของผลิตภัณฑ์ของบริษัท และความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าเป้าหมายในโลกออนไลน์ 2.การวิเคราะห์คู่แข่ง: ติดตามและวิเคราะห์กลยุทธ์ E-commerce ของคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาจุดได้เปรียบและปรับกลยุทธ์ของบริษัท
• ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Adaptability & Resilience) 1.ปรับตัวเร็ว: ตลาดอีคอมเมิร์ซเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ต้องพร้อมเรียนรู้ ปรับตัว และทดสอบสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ 2.แก้ปัญหาเฉพาะหน้า: สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน (เช่น แพลตฟอร์มเปลี่ยนนโยบาย วิกฤตสินค้า) ได้อย่างมีสติและมีประสิทธิภาพ 3.ทำงานภายใต้ความกดดัน:สามารถทำงานภายใต้ความกดดันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายยอดขายที่สูงมากได้

• ประกันสังคม
• ค่าทำงานล่วงเวลา
• เงินโบนัสตามผลงาน
• ตามข้อตกลงของบริษัท

Jobbkk